บทที่1 ความสำคัญของการใช้ภาษาในการสื่อสารสำหรับครู

 บทที่ 1 ความสำคัญของการใช้ภาษาในการสื่อสารสำหรับครู



รูปแบบการสื่อสารกับการเรียนการสอนซึ่งมี 2 ลักษณะคือ

1.การเรียนการสอนการเรียนรู้ในรูปแบบการสื่อสารทางเดียวหรือการสื่อสารวงจรเปิด (open – Loop system) คือการให้สิ่งเร้าแก่ผู้เรียนทางเดียวซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาสำคัญกับผู้สอนเนื่องจากผู้เรียนไม่มีการตอบสนองต่อการเรียนหรืออาจจะเกิดการตอบสนองที่ผิดพลาดได้และการป้อนข้อมูลอาจจะเข้าได้อย่างไม่ทั่วถึงและยังทำให้ผู้สอนไม่สามารถรู้ถึงการตอบสนองของผู้เรียนได้

2. การเรียนการสอนการเรียนรู้ในรูปแบบการสื่อสารสองทางหรือการสื่อสารวงจรปิด(clossed – Loop system) คือการให้สิ่งเร้าแก่ผู้เรียนซองทางโดยที่ผู้เรียนกับผู้สอนได้มีบทบาทร่วมกันทั้งสองฝ่ายซึ่งผู้เรียนจะสามารถแปลความหมายและมีการตอบสนองที่ถูกต้องมากกว่าการสื่อสารทางเดียวและผู้เรียนกับผู้สอนสามารถโต้ตอบกันได้อย่างชัดเจนและผู้สอนสามารถที่จะอธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากกว่าการสื่อสารทางเดียว


อุปสรรคของการสื่อสารในการเรียนการสอน

1. คำพูด (Verbalism) ลักษณะของคำพูดหรือการใช้คำที่ยากเกินไป

2. ฝันกลางวัน (Day Dreaming) ผู้เรียนจิตใจเลื่อนลอยไม่มีสมาธิ

3.ความขัดแย้ง (Confuion) บทเรียนที่ผู้สอนส่งมาเกิดความขัดแย้งกับความรู้เดิมของผู้เรียน

4. การรับรู้ที่จำกัด (Limited Percetion) ผู้เรียนมีการรับรู้ที่จำกัดในแต่ละด้าน

5 . สภาพแวดล้อมทางกายภาพไม่เอื้ออำนวย (Physical Discomfort) ลักษณะทางกายภาพต่างๆเช่นเสียงการได้ยิน

6 .การไม่ยอมรับ (lmpercetion)  ผู้สอนอาจจะไม่ยอมรับผู้เรียนทำให้ผู้เรียนเกิดการต่อต้านหรือมีอคติกับผู้สอน


องค์ประกอบที่ใช้ในการสื่อสารได้แก่

1. ผู้ส่งสารคือ ครู ผู้สอน หรือวิทยากร

2. สารจะต้องถูกต้องและเข้าใจง่ายชัดเจนเหมาะสม

3.สื่อจะต้องเหมาะกับเนื้อหาและบทเรียน

4. ผู้รับทราบเข้าใจมีสมาธิมีความรู้ทางภาษาที่ดี

5. ปฏิกิริยาตอบสนองหรือผลป้อนกลับ ตอบสนองถูกต้องและเหมาะสม


จากกระบวนการสื่อสารข้างต้นสามารถสรุปลักษณะที่สำคัญของกระบวนการสื่อสารได้ดังนี้

1. การสื่อสารเป็นกระบวนการที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง

2 .การสื่อสารเป็นกระบวนการที่ย้อนกลับไม่ได้จะเคลื่อนไปทางข้างหน้าเท่านั้น

3. การสื่อสารเป็นกระบวนการที่มีการเคลื่อนไหวในความคิดซึ่งจะต้องมีประสบการณ์เข้ามาด้วย

 

อุปสรรคของการสื่อสาร

1. อุปสรรคด้านกลไก (Mechanical Noise) เช่นการสื่อสารทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจมีเสียงคลื่นรบกวน

2 .อุปสรรคด้านทางภาษา (Sematic Noise)   การใช้ภาษาสื่อสารที่เข้าใจยากเกินไป

3. ภูมิหลังที่แตกต่างของผู้สื่อสาร  (Divergent backgrounds of  the particpants)  ความแตกต่างกันทางด้านภูมิหลังย่อมสื่อสารเข้าใจยาก

4. ความแตกต่างกันทางด้านการศึกษา (Differences in education) การมีระดับความรู้ที่แตกต่างกันทำให้สื่อสารกันได้ยากขึ้น

5. ความสนใจในข่าวสารที่แตกต่างกัน (Differences in interest in message) ความรอบรู้ค้นคว้าในข่าวสารที่ต่างกันจะทำให้เข้าใจในสิ่งที่ไม่เหมือนกัน

6. ความแตกต่างของระดับสมอง  (Differences in IQ) ระดับสมองหรือความสามารถในการรับรู้ย่อมมีผลต่อความเข้าใจข่าวสารของบุคคลได้

7 .ความแตกต่างของระดับภาษาและการใช้ภาษา  (Differences in language) ภาษาที่สื่อออกไปจะต้องเป็นภาษาที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ

การขาดความเชื่อถือร่วมกันของผู้สื่อสารไม่นับถือหรือขาดความเชื่อในตัวผู้ส่งสาร

9. ความแตกต่างในวัยเพศเผ่าพันธุ์ชนชั้น (Differences in age,  sex , race and class ) ซึ่งความแตกต่างของวัยที่แตกต่างกันมักจะมีทัศนะการมองโลกที่ต่างกัน

10. ความเครียดทางด้านร่างกายและจิตใจในขณะที่สื่อสาร (Mental and physical stress at time of communication) ความเครียดความกดดันทำให้การสื่อสารไม่ดำเนินไปด้วยดี

11. สภาพแวดล้อมในช่วงเวลาที่สื่อสาร (Environmental condituons at time of communication) สภาพไม่เอื้ออำนวยต่อการสื่อสารเช่นมีเสียงรบกวน

12. การขาดประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน    ทำให้การสื่อสารไม่เข้าใจกันและยากลำบากต่อการสื่อสาร

13 .การขาดโอกาสที่จะตอบโต้ซักถาม  ไม่มีโอกาสในการทำข้อข้องใจให้ชัดเจน

14. ผู้ส่งสารขาดทักษะในการสื่อสาร  ในการสื่อสารจะต้องอาศัยทักษะความชำนาญในการสื่อสารความหมายของผู้ส่งสาร

15. รับสารขาดทักษะในการรับสาร

16. สารที่ปราศจากสาระ สาระที่ส่งไปไม่มีสาระจึงทำให้ไม่มีใจความสำคัญในการสื่อสาร


สรุป อุปสรรคของการสื่อสารเกิดจากองค์ประกอบต่างๆดังนี้

1 .อุปสรรคที่เกิดจากผู้ส่งสาร

2 .อุปสรรคที่เกิดจากสาร

3. อุปสรรคที่เกิดจากผู้รับสาร


ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารแบ่งได้ 2 ลักษณะคือ

1. วัจนภาษาคือคำพูดถ้อยคำที่สามารถสื่อความหมายเป็นภาษาพูดได้ซึ่งการใช้วัจนภาษาจะต้องชัดเจนและถูกต้อง

2 .  อวัจนภาษา คือท่าทางแสงเสียงไม่มีการใช้คำพูดตัวอักษรซึ่งแบ่งได้ 7 ประเภท

2.1 เทศภาษาเกิดจากลักษณะของสถานที่และเวลา

2.2  กาลภาษา เกิดจากเวลาการใช้เวลาเป็นเครื่องแสดง

2.3  เนตรภาษา เกิดจากการใช้ดวงตาสายตาในการสื่อสาร

2.4   สัมผัสภาษาเกิดจากการสัมผัส

2.5   อาการภาษาเกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกาย

2.6   วัตถุภาษาเกิดจากการเลือกวัตถุมาใช้แสดงความหมาย

2.7   ปริภาษาเกิดจากการใช้น้ำเสียงประกอบถ้อยคำที่พูดออกไปเพื่อแสดงเจตนา อารมณ์





ความคิดเห็น